หน้าแรก
โปรแกรมทัวร์
ทัวร์วังเวียง เวียงจันทน์
ทัวร์หลวงพระบาง
ทัวร์ลาวใต้
ทัวร์เวียดนาม
ทัวร์กัมพูชา
ทัวร์สิบสองปันนา
รีวิวที่พัก
LAOS
Luangprabang
Vangvieng
Vientiane
Pakxe
Xiang Khoang
VIETNAM
Central Vietname
Northern Vietnam
Southern Vietnam
Travel Blog
THAILAND
LAOS
VIETNAM
CHINA
ชำระเงิน
PASSPORT
Border land
ติดต่อเรา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
ข้อมูลท่องเที่ยวจีน
เพิ่มเติม
หน้าแรก
โปรแกรมทัวร์
ทัวร์วังเวียง เวียงจันทน์
ทัวร์หลวงพระบาง
ทัวร์ลาวใต้
ทัวร์เวียดนาม
ทัวร์กัมพูชา
ทัวร์สิบสองปันนา
รีวิวที่พัก
LAOS
Luangprabang
Vangvieng
Vientiane
Pakxe
Xiang Khoang
VIETNAM
Central Vietname
Northern Vietnam
Southern Vietnam
Travel Blog
THAILAND
LAOS
VIETNAM
CHINA
ชำระเงิน
PASSPORT
Border land
ติดต่อเรา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
ข้อมูลท่องเที่ยวจีน
เพิ่มเติม
หน้าแรก
บทความทั้งหมด
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
เมืองมัณดาเลย์ พม่า
เมืองมัณดาเลย์ พม่า
3996 จำนวนผู้เข้าชม
|
เมืองมัณดาเลย์
เมืองมัณดาเลย์
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ รองจากย่างกุ้ง ซึ่งเป็นราชธานีแห่งสุดท้ายที่ถูกสถาปนาเมืองโดยระบบกษัตริย์ ด้วยความรุ่งเรืองในระยะเวลาไม่นาน เพียงประมาณ 28 ปี ก่อนตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่ได้ทิ้งร่องรอยแห่งอารยธรรม โบราณวัตถุและโบราณสถานที่มีค่าตกทอดมา 100 กว่าปี แค่คนรุ่งหลังในปัจจุบัน ด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของเมืองเริ่มต้นขึ้น ในสมัย ปี พ.ศ. 2400 ในสมัยของ พระเจ้ามินดง (Mindon Min) แห่งราชวงศ์ คองบอง ได้ย้ายราชธานีจาก อมรปุระมาสร้างเมืองใหม่ที่มัณดาเลย์ ด้วยหลายเหตุผลประกอบกัน จากการรุกคืบเข้าของจักรวรรดิอังกฤษ ทำให้พม่าเริ่มเสียดินแดนมากขึ้นเรื่อยๆ ความเสียเปรียบด้านชัยภูมิ กับกองทัพเรืออังกฤษที่ยิ่งใหญ่ทันสมัยในตอนนั้น สามารถนำเรือรบกลไฟขนาดใหญ่ติดตั้งปืนใหญ่ที่มีรัศมีการยิงเข้าไปได้ถึงภายในตัวเมืองหลวงเกาที่อยู่ริมแม่น้ำอิระวดีได้สะดวก กับความเชื่อในเรื่องโชคลางและโหราศาสตร์ จากด้วยอมรปุระและอังวะเคยเป็นราชธานีที่เป็นเมืองอัปมงคลกับการถูกรุกรานจากฝ่ายศัตรูจนเสียเมืองมาแล้ว ถึง 2 ครั้ง ภายในราชสำนักมีความวุ่นวายกับการแย่งชิงราชบัลลังก์จนเกิดลอบปลงพระชนม์กษัตริย์มาหลายพระองค์ จนทำให้ พระเจ้ามินดง ทรงเลือกเมืองมัณดาเลย์ที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางของประเทศ ที่เป็นถิ่นฐานดั้งเดิมของชาวบะม่าร์ในอดีต ตามคำชี้แนะของโหราจารย์ประจำพระองค์ ซึ่งหวังว่า การสร้างเมืองที่ยิ่งใหญ่กับทำนุบำรุงพระศาสนา และสืบต่อวัฒนธรรมในอดีต จะทำให้ดินแดนพม่าในลุ่มอิระวดีกลับมายิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์อีกครั้ง จนทำนายถึงว่า เมืองมัณดาเลย์จะยิ่งใหญ่จนเป็นศูนย์กลางของโลกในอนาคต แต่ก็หาเป็นเช่นนั้น ต่อมาในสมัยพระเจ้าธีปอ (Thibaw) ทรงขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2421 บ้านเมืองมีความวุ่นวายอย่างหนักกับการอ่อนแอในด้านการบริหารบ้านเมืองของพระองค์เอง จากข้อสรุปของนักประวัติศาสตร์ต่างชาติ หลายท่านได้ให้เหตุผลถึงการล่มสลายของราชวงศ์ไว้ จากการ ชิงดีชิงเด่นกันในสมัยพระเจ้ามินดง ที่ทรงมีพระชายาหลายองค์ ครั้นแต่งตั้งพระโอรสพระองค์ใดเป็น รัชทายาท ก็จะถูกลอบปลงพระชนม์จากพระโอรสและพระชายาที่มักใหญ่ใฝ่สูง จนไม่กล้าแต่งตั้งผู้ใดเป็นรัชทายาท จนเป็นเหตุวุ่นวายในราชสำนักมัณดาเลย์ มาถึงในปลายรัชสมัยของพระเจ้ามินดงประชวรหนักก่อนทรงสวรรคต พระนางฉินบูมาชิน (Hsinbyumashin) หรือบางตำราเรียกพระนางอเลนันดอ (Alenandaw) พระมเหสี ซึ่งเป็นพระมารดาของพระนางศุภยลัย (Supayalat) ได้เข้ามามีอำนาจเบ็ดเสร็จในราชการบ้านเมือง ทรงแต่งตั้งพระเจ้าธีปอ พระโอรสในพระชายาของพระเจ้ามินดงพระองค์หนึ่ง ขึ้นเป็นกษัตริย์และพระนางศุภยลัย ทรงเป็นพระราชินีตามที่พระนางฉินบูมาชินได้ทรงวางแผนไว้ ในรัชสมัยของพระเจ้าธีปอนี้เองตามความเห็นใน “หนังสือพม่าเสียเมือง” ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ได้กล่าวถึงความวุ่นวายในราชสำนัก ซึ่งเกิดจาก พระเจ้าธีปอ ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่รักความสงบเรียบง่ายไม่มี อำนาจทางการบริหารอย่างแท้จริง กับ พระนางศุภยลัย พระมเหสีที่มีนิสัยมักใหญ่ใฝ่สูง คิดแต่จะแก้แค้นและกำจัด ขุนนาง อำมาตย์ และผู้ใดก็ตามที่ตั้งตนจะเป็นศัตรูกับพระองค์ด้วยการส่งคนไปลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง จนบ้านเมืองอ่อนแอ ระส่ำระสาย เป็นเหตุให้ต้องพ่ายแพ้ศึกใหญ่กับอังกฤษ จนกองเรือทหารสามารถเข้ามาถึงพระนครได้ ทำให้พม่าเสียดินแดนที่เหลือทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2428 ส่วนพระเจ้าธีปอ และพระนางศุภยลัย พร้อมด้วยพระธิดาแบเบาะ 2 พระองค์ ได้ถูกเนรเทศ โดยอังกฤษใช้กองกำลังทหารถึง 11,000 นาย ในการป้องกันเหตุจนถึงท่าเรือ ไปพำนักที่เมืองชายฝั่งทะเล รัตนคีรี ใกล้กับเมืองบอมเบย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐมหาราชตรา (Maharashtra) ประเทศอินเดีย ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอินเดียทรงไม่สุขสบายอย่างเช่นพระราชวังมากนัก กับเงินของทางการอังกฤษที่ให้ใช้จ่ายเดือนละ 2,000 รูปี ในสมัยนั้น ในปี พ.ศ. 2430 พระนางศุภยลัย ทรงให้กำเนิดพระธิดาองค์สุดท้องพระเจ้าธีปอ ทรงสวรรคตในปี พ.ศ. 2459 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว พระชนมายุ 58 ชันษา พระศพถูกฝังที่เมืองรัตนคีรี อีก 3 ปีต่อมาอังกฤษได้ส่ง พระนางศุภยลัยและพระธิดากลับพม่า โดยพำนักที่กรุงย่างกุ้ง และทรงสวรรคตในปี พ.ศ. 2468 รวมพระชนมายุ 68 ชันษา พระศพถูกฝังในสวนหลวงใกล้พระเจดีย์ชเวดากอง เป็นการปิดฉากสิ้นสุดระบบกษัตริย์ที่ยาวนานมากว่า 2,000 ปี อย่างที่ไม่มีวันหวนกลับการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปัจจุบัน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
วัดอทูมาชิ (Atumashi Kyaung)
วัดชเวนันดอร์ (Shwenandaw Kyaung)
เที่ยวสวนม่านทิ่ง สิบสองปันนา
เที่ยวสิบสองปันนา จิ่งหง ยูนนาน
Powered by
MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว
และ
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด